รฐนน วรรณศรีจันทร์ ปิดเกมได้อีก 4 อันเดอร์พาร์ 66 จบด้วยสกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 260 คว้าแชมป์เอเชียน ทัวร์ ที่สองให้กับตัวเองจากรายการ เอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น 2024 หลังทำสกอร์ขึ้นนำตั้งแต่รอบแรก ที่สนามมาเก๊า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ พาร์ 70 ในเขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยทำสกอร์เหนือ กัญจน์ เจริญกุล สองสโตรค (ภาพ: Asian Tour)
เอเชียน ทัวร์ จัดการแข่งขันกอล์ฟรายการ เอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น 2024 ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 33 ล้านบาท แข่งขัน ณ สนามมาเก๊า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ระยะ 6,750 หลา พาร์ 70 ในเขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 10-13 ตุลาคมที่ผ่านมา มีนักกอล์ฟลงแข่งขันรวม 144 คน โดยมีผู้เล่นชาวไทยผ่านตัดตัวเข้าเล่นในสองวันสุดท้าย 16 คน
รอบสุดท้ายของการชิงชัย โปรฟลุ๊ค-รฐนน วรรณศรีจันทร์ ซึ่งทำสกอร์ขึ้นนำตั้งแต่วันแรก รักษาฟอร์มคงเส้นคงวา หวดเพิ่มอีก 4 อันเดอร์พาร์ 66 จากการทำ 6 เบอร์ดี้ เสีย 2 โบกี้ จบด้วยสกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ 260 คว้าแชมป์เอเชียน ทัวร์ รายการที่สองให้กับตัวเอง พร้อมเงินรางวัล 180,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6 ล้านบาท
ทางด้าน กัญจน์ เจริญกุล ซึ่งจบรอบสามมีสกอร์ตามหลัง รฐนน เพียงสโตรคเดียว ออกสตาร์ทไม่ดีเสียโบกี้ในหลุมแรกกับอีกหนึ่งโบกี้ที่หลุมเก้า แต่เก็บได้ 5 เบอร์ดี้ จบ 18 หลุมเข้ามา 3 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสี่วันรั้งตำแหน่งรองแชมป์ที่ด้วยสกอร์รวม 18 อันเดอร์พาร์ 262 รับเงินรางวัลไป 110,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 3.6 ล้านบาท
รฐนน ซึ่งคว้าแชมป์เอเชียน ทัวร์ ครั้งแรกจากรายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น เมื่อปี 2017 เผยหลังคว้าแชมป์ที่สองให้กับตัวเองว่า “แปลกมากที่วันนี้รู้สึกกดดันน้อยว่ารอบที่ผ่านมา เหมือนรู้ว่าปัจจุบันตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ มากดดันแค่ตอนเท้ายๆ พอถึงหลุมสุดท้ายตื่นเต้นมาก หัวใจเต้นแรง วันนี้เล่นได้ตามแผน และรู้สึกสบายใจที่ได้เล่นกับนักกอล์ฟคนไทยด้วยกัน การกลับมาชนะครั้งนี้อาจเพราะเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น คุมอารมณ์ตัวเองได้ดี ที่ผ่านมาคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ ขอบคุณตัวเองที่ไม่เลิกเล่นกอล์ฟ ณ ตอนนั้น จนมาได้แชมป์ในวันนี้ และจะนำฟอร์มนี้ไปเล่นต่อที่หัวหินในสัปดาห์หน้า”
ส่วนกัญจน์ โปรวัย 32 ปี จากพังงา เผยหลังจบรองแชมป์ในเอเชียน ทัวร์ เป็นครั้งที่ 4 ว่า “ก่อนออกไปก็มีตั้งเป้าว่าอยากชนะ แต่เปิดหลุมแรกไปไม่ดี แต่ก็ไม่เสียความมั่นใจ คิดว่ายังมีโอกาสเพราะยังเหลืออีกหลายหลุมอะไรก็เกิดขึ้นได้ ดีที่เก็บเบอร์ดี้คืนได้สองหลุมติด ส่วนรฐนนเล่นดีมาก เกมไม่หลุดเลย ก็พอใจกับเกมวันนี้ที่แม้ตีพลาดแต่ก็ยังเหนียวและสู้ พยายามปลุกตัวเองว่ายังมีโอกาสแม้จะน้อย โดยรวมจบอันดับสองพอใจมาก เกมดีขึ้นกว่าสองสัปดาห์ที่ผ่านมา พัตต์ดีขึ้น แต่ยังไม่ถึงเวลาคงต้องรอต่อไป และมีหลายจุดที่ยังต้องแก้ไข จบอันดับสองเป็นครั้งที่ 4 ก็อยากบอกตัวเองว่าอาจจะยังซ้อมหนักไม่พอ หรืออาจเป็นเรื่องสภาพจิตใจด้วย แต่ถือว่ายังมีโอกาสที่จะทำได้ ต้องพยายามและสู้ต่อไป สัปดาห์หน้าจะไปแข่งที่ไทยคิดว่าถ้าตีให้ลูกจากซ้ายไปขวาน้อยลงกว่านี้ และพัตต์ได้เหมือนสัปดาห์นี้คิดว่ามีโอกาสได้ลุ้นแชมป์อีกครั้ง”
ทางด้าน ภูสิทธิ์ ทรัพย์อัประไมย เร่งเครื่องหวด 6 อันเดอร์พาร์ 64 รวมสี่วันมี 16 อันเดอร์พาร์ 264 ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3 รับเงินรางวัล 63,000 เหรียญสหรัฐ ส่วน มิเกล ทาบัวน่า จอมเก๋าจากฟิลิปปินส์ มาแรงวันสุดท้ายปิดเกมสวยด้วยอีเกิ้ลที่หลุม 18 พาร์ 5 จบเข้ามา 7 อันเดอร์พาร์ 63 ขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ร่วม ด้วยสกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 267 เท่ากับ จอห์น แคทลิน มือหนึ่งออร์เดอร์ออฟเมอริตเอเชียน ทัวร์ จากสหรัฐฯ ที่เร่งเครื่องหวด 5 อันเดอร์พาร์ 65
ขณะที่ ปวิธ ตั้งกมลประเสิฐ อดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2016 เก็บ 3 อันเดอร์พาร์ 67 รวมสี่วันมี 14 อันเดอร์พาร์ 266 ตามมาที่อันดับ 6 ด้าน ลี มินวู แชมป์ปีที่แล้วจากออสเตรเลีย หวดเข้ามา 4 อันเดอร์พาร์ 66 สกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 269 เท่ากับ ชัพชัย นิราช ที่เครื่องร้อนวันสุดท้ายหวด 4 อันเดอร์พาร์ 64 และ เด่นวิทย์ เดวิด บริบูรณ์ทรัพย์ ที่ตีมา 4 อันเดอร์พาร์ 66 อยู่อันดับ 9 ร่วม ส่วน ไบรอัน ฮาร์แมน โปรมือ 23 ของโลกชาวอเมริกัน ดีกรีแชมป์ดิ โอเพ่น แชมเปี้ยนชิพ ปีที่แล้ว ทำได้เพียง 1 อันเดอร์พาร์ 70 จบด้วยสกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 270 อยู่อันดับ 13 ร่วม
สำหรับกอล์ฟเอเชียน ทัวร์ รายการต่อไปเป็นการแข่งขันอินเตอร์ เนชั่นแนล ซีรีส์ ที่ประเทศไทยสองสัปดาห์ติดต่อกัน เริ่มจากรายการ แบล็คเมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ ที่สนามแบล็คเมาน์เท่น กอล์ฟ คลับ หัวหิน ระหว่างวันที่ 17 – 20 ตุลาคม ต่อด้วยรายการ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ที่สนามไทยคันทรีคลับ จังหวัดฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 24-27 ตุลาคมนี้
