บ่อยครั้งที่กอล์ฟถูกมองว่าเป็นกีฬาที่สะท้อนให้เห็นถึงชีวิตที่ซับซ้อน ซึ่งจะเจอบททดสอบในเรื่องของทักษะ ความเพียรพยายาม และความแข็งแกร่งทางจิตใจ หากประสบความสำเร็จกอล์ฟจะเป็นเกมกีฬาที่สามารถลงเล่นได้หลายสิบปีและให้รางวัลตอบแทนคนเก่งในเวทีการแข่งขันระดับสูงสุด
ในทางกลับกัน กีฬากอล์ฟยังเป็นเครื่องเตือนใจว่าชีวิตนั้นช่างเปราะบางและเต็มไปด้วยความท้าทาย และบ่อยครั้งต้องอาศัยพลังแห่งความยืดหยุ่นและความมุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อจุดประกายขับเคลื่อนผ่านความยากลำบาก เฉกเช่นนักกอล์ฟสองรายอย่าง เบิร์นฮาร์ด ลังเกอร์ ตำนานนักกอล์ฟจากเยอรมนี วัย 67 ปี ที่คว้าแชมป์มาแล้ว 124 รายการทั่วโลก และเจฟฟรีย์ กวน ดาวรุ่งจากออสเตรเลียเชื้อสายจีน ที่เพิ่งเทิร์นโปรสู่เส้นทางนักกอล์ฟอาชีพเมื่อปีที่แล้ว เรื่องราวของทั้งคู่นำเสนอให้เห็นมุมมองว่า กีฬากอล์ฟคือสิ่งที่หล่อหลอมชีวิตของผู้ที่อุทิศตนให้กับเกมกอล์ฟ
หลังจากคว้าชัยชนะในอาชีพครั้งแรกในปี 1980 ปัจจุบัน เบิร์นฮาร์ด ลังเกอร์ ยังคงโลดแล่นโชว์ฟอร์มโดดเด่นในเวทีการแข่งขันกอล์ฟ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและสมรรถนะเยี่ยมไม่ต่างจากรถหรูชั้นนำของประเทศเยอรมนีบ้านเกิดของเขา ลังเกอร์ครองสถิตินักกอล์ฟที่คว้าแชมป์มากที่สุดเป็นอันดับสองในดีพี เวิลด์ทัวร์ ด้วยชัยชนะ 42 รายการ รวมถึงตำแหน่งแชมป์เมเจอร์ มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนท์ 2 สมัย และในขณะที่กำลังก้าวสู่วัย 70 คุณปู่ของหลานๆ 4 คน ยังไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนหรือวางมือจากแฟร์เวย์
ในการแข่งขันบนเวที พีจีเอ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งเป็นทัวร์สำหรับผู้เล่นอายุ 50 ปีขึ้นไปก็เช่นเดียวกัน เบิร์นฮาร์ด ลังเกอร์ ยังคงแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น กระหายที่จะคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งที่อายุน้อยกว่า แม้ต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายฉีกขาดเมื่อช่วงต้นปีนี้ หลังโชคร้ายเกิดอุบัติเหตุระหว่างเล่นกีฬาพิคเคิลบอล
โปรจอมเก๋าชาวเยอรมันทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในรายการส่งท้ายฤดูกาลในศึก ชาร์ลส์ ชวาบ แชมเปี้ยนชิพ ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยตีสามรอบด้วยสกอร์ 67 ก่อนคว้าแชมป์รายการที่ 47 ในเวทีพีจีเอ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ยืดสถิติคว้าชัยชนะอย่างน้อย 1 รายการในแต่ละฤดูกาลตลอดช่วง 18 ปีที่ผ่านมา รวมถึงสถิติการเป็นโปรกอล์ฟอายุมากที่สุดที่คว้าแชมป์ในประวัติศาสตร์แชมเปี้ยนชิพ
เมื่อถามว่าอะไรคือแรงบันดาลใจที่ส่งให้เขายังรักษาสภาพความฟิตและสามารถแข่งขันในระดับท็อปได้ เบิร์นฮาร์ด ลังเกอร์ ตอบว่า “การคว้าชัยชนะไม่มีวันหมดอายุ ผู้คนมักถามว่าเพราะเหตุใดผมจึงยังไม่เลิกเล่นกอล์ฟ และนี่คือเหตุผล เพราะผมยังคงสนุกกับการแข่งขัน สนุกกับการไล่ล่าแชมป์ และยังรู้สึกว่าตัวเองสามารถคว้าชัยชนะได้ จะทำเช่นนั้นได้ ต้องมีแรงจูงใจและมีวินัยในการทำงาน”
ในขณะที่ลังเกอร์ยังคงสานต่อความสำเร็จ แต่กับตรงข้ามกับ เจฟฟรีย์ กวน นักกอล์ฟเชื้อสายจีนวัย 20 ปีจากออสเตรเลีย เมื่อโลกทั้งใบของเจฟฟรีย์พังทลายลงหลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัสจนทำให้ตาข้างซ้ายสูญเสียการมองเห็น จากที่กำลังเป็นดาวรุ่งและเป็นความหวังใหม่ของออสเตรเลีย ด้วยผลงานโดดเด่นกวาดแชมป์เกือบทุกรายการในระดับสมัครเล่น ตอนนี้ต้องรวบรวมพลังเพื่อเอาชนะความท้าทายที่ใหญ่หลวงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อกลับมาสู่เส้นทางเดิมอีกครั้ง
เจฟฟรีย์ กวน เกิดในครอบครัวผู้อพยพชาวจีนในออสเตรเลีย เขาตัดสินใจเทิร์นโปรเมื่อปีที่แล้ว และได้ประเดิมลงแข่งในพีจีเอทัวร์ ในรายการ โปรคอร์ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน ผ่านการรับเชิญของผู้สนับสนุน หลังจบการแข่งขัน เจฟฟรีย์ กวน เดินทางกลับบ้านเกิดในสัปดาห์ถัดมา และเกิดโศกนาฏกรรมระหว่างแข่งรอบโปร-แอม รายการหนึ่งและโดนลูกหลง ทำให้กระดูกโหนกแก้มซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตก และไม่สามารถลงเล่นกอล์ฟได้อย่างน้อยหกเดือน
อุบัติเหตุดังกล่าว ทำให้อนาคตของเด็กหนุ่มออสซี่ซึ่งเป็นตัวแทนของทีมนานาชาติในการแข่งขัน จูเนียร์ เพรสซิเดนท์ส คัพ ปี 2022 ที่เควล ฮอลโลว์ ต้องสั่นคลอนทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เมื่อความฝันบนเส้นทางอาชีพนักกอล์ฟที่กำลังจะรุ่งกลับร่วงหล่นจนอาจถึงกับพังทลาย
โดยเมื่อไม่นานมานี้ เจ้าตัวโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียว่า “ผมเสียใจมาก… มันต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายมหาศาล และส่งผลกระทบต่อตัวผมและครอบครัวอย่างมาก ผมจะฟื้นตัวกลับมาเป็นผู้เล่นคนเดิมได้อย่างไร สี่สัปดาห์นี้เป็นเป็นช่วงเวลายากลำบากที่สุดในชีวิตของผม แต่ก็ทำให้ผมมีจิตใจแข็งแกร่งขึ้นและพร้อมที่จะเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ในอนาคต ผมจะกลับมาได้อย่างแน่นอน”
ขณะที่วงการกอล์ฟออสเตรเลียได้รวมตัวกันให้การสนับสนุนช่วยเหลือ เจฟฟรีย์ กวน โดย Australian Sports Foundation ได้เริ่มระดมทุนเพื่อช่วยเหลือด้านการเงิน และเป็นกำลังใจให้เด็กหนุ่มผู้น่ารักรายนี้ต่อสู้เพื่อกลับมาสู่เส้นทางอาชีพนักกอล์ฟอีกครั้ง เหมือนกับไอดอลของเขาอย่าง เบ็น โฮแกน ที่สามารถกลับมาได้อย่างน่าทึ่งหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด และมาคว้าแชมป์รายการสำคัญอีก 5 รายการ ในขณะที่มีหลายคนไม่คิดว่าเขาจะสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้งด้วยซ้ำ
หรือบางที เจฟฟรีย์ กวน อาจต้องดูความเพียรพยายามของ เบิร์นฮาร์ด ลังเกอร์ เป็นแรงบันดาลใจ สำหรับจุดประกายไฟให้กลับสู่เส้นทางเดิมอีกครั้ง แม้สถานการณ์จะยากลำบากก็ตาม