คลื่นเมืองไทยแข็งแรง FM 99 MHz
[new_shortcode]

คลื่นเมืองไทยแข็งแรง FM 99 MHz

[new_shortcode]

โพลพ่อแม่ส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยเปิดเรียน

1622522335881

ผลสำรวจอนามัยโพล พบพ่อแม่ ผู้ปกครอง ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่จะเปิดเรียน ต้องการให้ครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน ฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมก่อน ย้ำสถานศึกษาต้องปฏิบัติตามมาตรการก่อนเปิดเรียนอย่างเคร่งครัด

                นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจอนามัยโพลประเด็น “เห็นด้วยที่จะเปิดเรียนหรือไม่” พบว่า ภาพรวมประเทศเห็นด้วย ร้อยละ 40.5 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 54.8 เมื่อแบ่ง ออกเป็นรายภาค พบว่า ภาคกลางไม่รวมกรุงเทพมหานคร เห็นด้วยร้อยละ 33.1 ไม่เห็นด้วยร้อยละ 62.1 , ภาคใต้ เห็นด้วยร้อยละ 30.2 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 65.9 , ภาคเหนือ เห็นด้วย ร้อยละ 45.1 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 49.9 และภาคอีสาน เห็นด้วย ร้อยละ 66.2 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 29.6
                โดยเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยในการเปิดเรียนมากที่สุด ในทุกพื้นที่ยกเว้นภาคอีสานคือ เนื่องจากยังพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม ส่วนภาคอีสานจัดอยู่ในพื้นที่ที่มีการระบาดต่ำและเป็นพื้นที่เดียวที่ผลสำรวจพบว่า เห็นด้วยที่จะให้เปิดเรียนสูงถึงร้อยละ 66.2 ซึ่งเหตุผลหลักคือ เพื่อให้เด็กได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

                นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับเหตุผลของผู้ไม่เห็นด้วยในการเปิดเรียนในภาพรวมของประเทศพบว่าร้อยละ 15.3ต้องการให้ครูและนักเรียนได้รับการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม ขณะที่กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดหนักในตอนนี้ต้องการให้ครูและนักเรียนได้รับการฉีดวัคซีน ร้อยละ 17.11 ภาคกลางร้อยละ14.28 ภาคใต้ร้อยละ 28.43 ภาคเหนือ ร้อยละ 23.75 และภาคอีสาน ร้อยละ 9.28

                ดังนั้น การที่ประชาชนมองว่าควรพิจารณาการฉีดวัคซีนสำหรับบุคลากรทางการศึกษาและนักเรียนก่อน จึงเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการเปิดเรียนตามปกติ และการพิจารณาเปิดเรียนจึงควรกระจายอำนาจให้จังหวัดหรือกลุ่มจังหวัด ร่วมกับเขตพื้นที่การศึกษา เป็นผู้พิจารณา โดยคำนึงถึงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 และการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในสถานศึกษาที่กรมอนามัยได้ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ และภาคีเครือข่ายจัดทำขึ้น พร้อมทั้งผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาผ่าน Thai Stop COVID plus การเตรียมความพร้อมและแผนเผชิญเหตุของโรงเรียน ความร่วมมือของชุมชนและทุกภาคส่วนในพื้นที่ ตลอดจนการลดการเคลื่อนไหวหรือเดินทางของนักเรียนหรือผู้เกี่ยวข้องที่มาจากพื้นที่หรือสถานที่ที่เกิดการระบาด

                “สถานศึกษาทุกแห่งขอให้ปฏิบัติตามมาตรการก่อนเปิดภาคเรียนอย่างเคร่งครัดด้วยการประเมินตนเอง ผ่านระบบ Thai Stop COVID plus ซึ่งจากข้อมูลระหว่างวันที่ 24 เมษายน – 27 พฤษภาคม 2564 พบว่ามีการประเมินตนเองแล้ว 38,264 แห่ง คิดเป็นร้อยละ98.3 ส่วนนักเรียน นักศึกษา ครู บุคลากร และผู้ปกครอง ประเมินความเสี่ยงผ่านระบบ “ไทยเซฟไทย” และสำหรับสถานศึกษาให้จัดสภาพแวดล้อมให้เป็นไปตามมาตรการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนของสถานศึกษา 44 ข้อ ใน 6 มิติ ได้แก่ 1)ความปลอดภัยจากการลดแพร่เชื้อโรค 2) การเรียนรู้ 3) การครอบคลุมเด็กด้อยโอกาส 4) สวัสดิภาพและการคุ้มครอง 5) นโยบาย และ 6) การบริหารและการเงิน”อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด .-สำนักข่าวไทย

ข่าวกีฬา