ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จะเจอ มาเลเซีย ในรอบรองชนะเลิศ ศึกชิงแชมป์อาเซียน 2022 นัดแรกวันที่ 7 ม.ค. 66 เวลา 19.30 น. ที่บูกิต จาลิล สเตเดี้ยม ก่อนกลับมาเล่นใน ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต นัดที่ 2 วันที่ 10 ม.ค. 66 เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 9 MCOT HD30 และทีสปอร์ตส์ ทั้ง 2 นัด หลังพัก 1 วัน มาโน โพลกิง โค้ชทีมชาติไทย นำนักเตะกลับมาซ้อมเมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 ม.ค. 66 ที่สนามยามาโอกะ ฮานาซากะ ปทุมธานี เตรียมแทคติกเจอเสือเหลือง
มาโน กล่าวว่า มีเวลาอีก 2 วัน เพื่อวางแผน วางแทคติก ในการบุกไปเล่นในสนามที่มีแฟนบอลเข้ามาเต็มสนาม และเป็นแมตช์ที่ยากอย่างที่หลายคนทราบ แต่ไทยก็ผ่านมาได้แล้วในเกมกับ อินโดนีเซีย นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญมากสำหรับทีมไทย นี่คือรอบน็อกเอาต์ ไทยเป็นแชมป์กลุ่มได้ ซึ่งมันสำคัญมาก ที่ได้เล่นในบ้านนัดที่ 2
ไทย เคยแพ้ มาเลเซีย ในการดวลจุดโทษ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ที่เชียงใหม่ ซึ่ง มาโน กล่าวว่า มาเลเซีย เป็นทีมที่แข็งแกร่ง มีการจัดระเบียบที่ดี สู้ตลอดเวลา แต่ไทยก็พร้อมที่จะสู้ในรอบรองชนะเลิศ ในรอบแบ่งกลุ่ม มาเลย์ แพ้มาแค่เกมเดียว ในการเยือนเวียดนาม ซึ่งเสียจุดโทษในเกมนั้น และเป็นจุดเปลี่ยน
กุนซือช้างศึก กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องสภาพสนามที่แตกต่าง นั่นคือเหตุผลที่ไทยตัดสินใจเดินทางเลยในวันพรุ่งนี้ (5 ม.ค.) เพื่อเพิ่มความเคยชินสักเล็กน้อย กับการเล่นบอลในสนามแบบนี้
“มาเลเซีย ขาดนักเตะจากยะโฮร์ 7 คน แต่เราก็ขาดนักเตะตัวหลัก 10 คนเหมือนกัน เบื้องต้น ตอนนี้เราต้องโฟกัสที่รายการนี้ก่อน ส่วนรายการต่อไปที่ถูกเชิญไปเล่น (WAFF) และได้เจอกับทีมที่มีระดับสูงกว่าทีมชาติไทย ก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เราต้องเป็นแชมป์ให้ได้ก่อน”
“สำหรับการที่ทีมอื่นเป็นโค้ชเกาหลีใต้ทั้งหมด ผมมองว่า โค้ชเกาหลีเป็นโค้ชที่มีคุณภาพ คุ้นเคยกับคนในภูมิภาคนี้เป็นอย่างดี แต่ตัวผมก็คุ้นเคยกับนักเตะไทย เพราะผมทำงานทีนี่มานาน ผมเคยได้แชมป์มาแล้ว ผมเองก็มั่นใจในตัวเองเหมือนกัน”
ขณะเดียวกัน ทีมไทย จะบินไปมาเลเซีย วันที่ 5 ม.ค. 66 แต่ก็จะซ้อมจนหยดสุดท้าย ช่วงเช้าซ้อมที่สนามยามาโอกะฯ จากนั้นจะเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ สู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เวลา 16.45 น. ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG417
