คลื่นเมืองไทยแข็งแรง FM 99 MHz
รายการปัจจุบัน : Morning Talk Weekend

คลื่นเมืองไทยแข็งแรง FM 99 MHz

“มาดามแป้ง” เชื่อไทยได้ประโยชน์มากมายไปแข่งขัน WAFF

323559937_667969758413926_6088091772339418161_n

ความเคลื่อนไหวทัพนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ซึ่งได้รับเชิญจากสหพันธ์ฟุตบอลเอเชียตะวันตก (WAFF) ไปแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียตะวันตก 2023 WAFF Championship ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในช่วงฟีฟ่าเดย์เดือนมีนาคม ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม ถึงวันที่ 2 เมษายนนั้น

“มาดามแป้ง” นาง นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทยชุดใหญ่ เปิดเผยว่า ทีมชาติไทยจะมีทัวร์นาเมนต์ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียตะวันตก 2023 WAFF Championship ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทีมชาติไทยได้เข้าร่วมชิงชัยรายการนี้ โดยจะได้อุ่นเครื่องกับหลายทีมที่มีแรงกิ้งสูงกว่า ไม่ว่าจะเป็น ซาอุดีอาระเบีย, อิรัก และอีกหลายทีม จึงอยากเชิญชวนให้แฟนบอลชาวไทยร่วมกันติดตามเชียร์การแข่งขันในรายการนี้

“แป้งในฐานะที่ทำฟุตบอลมาตั้งแต่เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิง จนถึงผู้จัดการทีมฟุตบอลชาย สิ่งที่แป้งคิดว่าเป็นกำลังใจที่ส่งต่อให้กับนักกีฬาทีมชาติไทยไม่ว่าจะเป็นกีฬาประเภทใดก็ตามคือ เสียงเชียร์จากแฟนกีฬาชาวไทย ซึ่งบางครั้งแฟนกีฬาอาจจะไม่ได้ไปเชียร์ที่สนามแข่งขันได้ในการแข่งขันที่ต่างประเทศ แต่ก็ยังได้เชียร์ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งช่องทางทีวี และทางออนไลน์ แป้งเชื่อว่าผู้เล่นคนที่ 12 ของทีมฟุตบอลไทยก็คือ แฟนชาวไทยทุกคน”

“ในการแข่งขันครั้งนี้ถ้าทีมชาติไทยโชคดี เล่นได้ดี และได้ตัวผู้เล่นที่ดี เนื่องจากเป็นฟีฟ่าเดย์ ซึ่งหากเราสามารเอาชนะทีมที่แรงกิ้งสูงกว่าก็จะเป็นการช่วยขยับแรงกิ้งของทีมชาติไทยได้ ซึ่งก็หวังว่าจะได้ดูการถ่ายทอดสดของทีมชาติไทยในี้ผ่านช่องใดช่องหนึ่ง“

ส่วนกรณีที่มี 50 รายชื่อนักเตะทีมชาติไทยที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ “มาดามแป้ง” ระบุว่า จริงๆ แล้วยังไม่ได้มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แต่เป็นเพียงการคาดเดา ซึ่งก็มีบางส่วนถูกบ้าง บางส่วนก็ยังไม่ถูกทั้งหมด โดยก็จะต้องประชุมร่วมกัน มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย ก่อนที่จะมีการประกาศรายชื่ออกมาอย่างเป็นทางการ

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียตะวันตก 2023 WAFF Championship จะมี 12 ชาติเข้าร่วมการชิงชัย ประกอบด้วย บาห์เรน, อิรัก, จอร์แดน, คูเวต, เลบานอน, โอมาน, ปาเลสไตน์, ซาอุดีอาระเบีย, ซีเรีย, ไทย, ยูเออี และเยเมน โดยรอบแบ่งกลุ่ม แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ชาติ แต่ละชาติจะได้ลงสนามอย่างน้อย 3 แมตช์

การคัดเลือกทีมผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ จะนำทีมแชมป์กลุ่ม 3 กลุ่ม พร้อมด้วยรองแชมป์กลุ่มที่มีผลงานดีที่สุด ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ โดยหากคะแนนเท่ากันจะวัดกันที่ประตูได้เสีย ส่วนในรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ จะแข่งนัดเดียวจบ หากเสมอกันจะต่อเวลาพิเศษ และตัดสินกันที่การดวลจุดโทษ เพื่อหาทีมชนะ

Premier League Update