จากครอบครัวที่ยากจน พ่อแม่แยกทาง และอาศัยอยู่กับยายในแหล่งเสื่อมโทรมที่แวดล้อมไปด้วยยาเสพติด แต่เด็กหนุ่มคนหนึ่งใช้ “กีฬา” นำพาตัวเองและคนที่ตัวเองรักออกมาสู่ชีวิตใหม่ในฐานะ “ฮีโร่” นักกีฬาทีมชาติไทย เขาคนนั้นคือ “ฟร้อง” สุวิจักขณ์ ขุนทอง นักยูยิตสูเจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 32
ฟร้องเกิดที่กรุงเทพฯ มียายที่ขับวินมอเตอร์ไซค์เลี้ยงดูมาเพราะพ่อแม่แยกทางกัน แต่การทำมาหากินในเมืองกรุงค่อนข้างอัตคัต ทำให้ยายหอบเอาหลานชายตัวน้อยวัย 9 ขวบกลับไปใช้ชีวิตที่จังหวัดนครสวรรค์ เพราะมีที่ดินมรดกอยู่แปลงหนึ่ง แต่ไปได้แค่สองปี ก็เกิดน้ำท่วมใหญ่ ทำให้ต้องระหกระเหินกลับมาเมืองหลวงอีกครั้ง
“ไปอยู่ที่นครสวรรค์ลำบากมาก ยายเก็บมะลิขาย เงินไม่พอใช้ อดมื้อกินมื้อ บางวันได้กินข้าวผัดกับน้ำมัน”
ฟร้องย้อนความทรงจำในวัยเด็กให้ฟังว่า ยายขายที่ดินที่นครสวรรค์เพื่อนำเงินมาซื้อบ้านในย่านชุมชนแออัดแถวริมคลอง ถนนสายไหม และยายก็กลับมาขับวินเลี้ยงดูเขารวมถึงน้องสาวตัวน้อยอีกครั้ง
ด้วยความที่เป็นคนตัวเล็ก ทำให้ฟร้องอยากเรียนกีฬาต่อสู้เอาไว้เพื่อป้องกันตัว และเริ่มหัดเล่นตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยมปีที่ 2 ด้วยการเข้าไปฝึกในกองทัพอากาศที่มีการจัดการเรียนการสอนกีฬาศิลปะป้องกันตัว โดยฟร้องเริ่มจากกีฬามวย ก่อนจะมาเล่นยูโด และสุดท้ายมาจบที่ยูยิตสู
ความที่เป็นคนมีความตั้งใจ มีวินัยในการฝึกซ้อมแบบไม่เคยขาดสักวันเดียวแม้แต่ในยามที่ไม่สบาย ทำให้ฟร้องพัฒนาฝีมือได้อย่างรวดเร็ว และสามารถคว้าเหรียญทองได้จากการลงแข่งขันครั้งแรกในศึกชิงแชมป์ประเทศไทย ก่อนจะมาเป็นคู่ซ้อมให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย และติดทีมชาติชุดใหญ่สู้ศึกกีฬาเอเชี่ยเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย
“ผมดีใจมากที่ได้เบี้ยเลี้ยงก้อนแรกมา 18,000 บาท และนำเงินทั้งหมดไปให้ยายเลย หลังจากนั้น ก็ได้เบี้ยเลี้ยงมาเรื่อยๆ ตอนไปแข่งชิงแชมป์โลก ได้มา 50,000 บาท ผมแบ่งให้ยายอีก ยายร้องไห้เลย ผมบอกกับยายให้เลิกขับวิน ผมจะเลี้ยงดูยายเอง”
นับตั้งแต่ติดทีมชาติครั้งแรกจวบจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 6 ปี ฟร้องในวัย 22 ปี สร้างผลงานให้กับทีมชาติไทยได้อย่างต่อเนื่อง เริ่มจากเหรียญเงิน ซีเกมส์ ปี 2019 ,เหรียญเงิน ชิงแชมป์โลก 2021 รุ่นอายุไม่เกิน 21, เหรียญทอง ชิงแชมป์เอเชีย ปี 2022, เหรียญทอง ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 และล่าสุดเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 32
จากผลงานการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ทำให้ฟร้องได้รับการบรรจุเป็นทหารอากาศ และทำให้เจ้าตัวมีหลักประกันในการไปผ่อนซื้อบ้านแถวลำลูกกา คลองสาม เมื่อ 4 เดือนก่อน เพื่อนำพาครอบครัวที่ประกอบไปด้วย ยาย, แม่ และน้องสาวออกมาสู่สภาพแวดล้อมที่ดีกว่าเดิม
ความกตัญญูของฟร้องที่มีมาอย่างต่อเนื่องได้รับเสียงชื่นชมจากคนทั่วไปที่รู้จักกับครอบครัวนี้ และล่าสุดคนทั้งประเทศก็ร่วมสรรเสริญเด็กหนุ่มยอดกตัญญูที่หลั่งน้ำตาหลังจากคว้าเหรียญทองในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ปิดฉากไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ประเทศกัมพูชา
“ก่อนออกจากบ้านไปแข่งซีเกมส์ ผมเข้าไปกราบยายกับแม่และบอกว่า จะคว้าเหรียญทองมาให้ได้ เพื่อนำเงินรางวัลมาบวชทดแทนบุญคุณในปีหน้าหลังจากเรียนจบปริญญาตรีที่ม.เกษมบัณฑิต ผมเลยกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะดีใจมากที่สามารถทำได้ตามความตั้งใจ”
นอกจากมีหลักคิดในเรื่องของความกตัญญูเป็นที่ตั้งแล้ว ฟร้องยังมีแนวคิดในการเล่นกีฬาที่เป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนว่า
“ให้หากีฬาที่เล่นแล้วเรารู้สึกสนุก มีความสุข และตั้งใจทำให้เต็มที่ รวมถึงพยายามพัฒนาตัวเองตลอดเวลา แล้วความสำเร็จก็จะตามมา”
#ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ
