แอนดี้ โอเกิลทรี โปรมือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ จากสหรัฐฯ โชว์ฟอร์มแรงต่อเนื่อง หวดรอบสุดท้ายได้อีก 7 อันเดอร์พาร์ 64 จบด้วยสกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ 268 คว้าแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ เป็นครั้งที่สามให้กับตัวเองจากรายการ “อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ อิงแลนด์” ที่สนามโคลสเฮาส์ กอล์ฟ คลับ ประเทศอังฤษ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยทำสกอร์ทิ้งห่างอันดับสองถึง 7 สโตรค ด้านนักกอล์ฟไทยผลงานดีสุดเป็น ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ รั้งอันดับ 8 ด้วยสกอร์รวม 6 อันเดอร์พาร์ 278

เอเชียน ทัวร์ จัดศึก อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ อิงแลนด์ ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 70 ล้านบาท) ที่สนามโคลสเฮาส์ กอล์ฟ คลับ ระยะ 6,872 หลา พาร์ 71 ในเมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังฤษ ระหว่างวันที่ 17-20 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีนักกอล์ฟชาวไทยผ่านตัดตัวเข้าไปเล่นในสองวันสุดท้ายได้ 11 คน ทั้งนี้เวลาท้องถิ่นประเทศอังกฤษช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง

ปิดฉากการชิงชัยปรากฎว่า แอนดี้ โอเกิลทรี นักกอล์ฟชาวอเมริกันวัย 25 ปี ซึ่งออกสตาร์ทฐานะผู้นำอยู่หนึ่งสโตรค รอบสุดท้ายโชว์ฟอร์มร้อนแรงหวด 7 อันเดอร์พาร์ 64 จากการทำ 7 เบอร์ดี้ กับ 1 อีเกิ้ล เสีย 2 โบกี้ จบด้วยสกอร์รวม 16 อันเดอร์พาร์ 268 คว้าแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ รายการที่สามให้กับตัวเอง พร้อมรับเงินรางวัล 360,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 12.6 ล้านบาท โดยมี เอียน โพลเตอร์ ดาวดังเจ้าถิ่น ที่เร่งเครื่องหวด 7 อันเดอร์พาร์ 64 รั้งรองแชมป์ด้วยสกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 275 รับเงินรางวัล 220,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7.7 ล้านบาท

แอนดี้ โอเกิลทรี ซึ่งรั้งตำแหน่งผู้นำเงินรางวัลสะสมของทั้งเอเชียน ทัวร์ และอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ฤดูกาลนี้ เผยหลังครองชัยชนะในรายการ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ เป็นรายการที่สามว่า “ผมไม่คิดว่าจะตีได้ดีขนาดนี้ในสัปดาห์นี้ ผมพอใจกับการพัตต์ของตัวเอง รวมถึงการควบคุมสปีดทำได้ดี ซึ่งผมพยายามทำให้ดีขึ้นในทุกสัปดาห์ และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทำได้ ณ สนามระดับโลกแห่งนี้”

ทางด้านโปรชื่อดังของโลกอย่าง แกรม แม็กดาวล์ แชมป์ยูเอส โอเพ่น ปี 2010 จากไอร์แลนด์เหนือ พลาดตีเกิน 1 โอเวอร์พาร์ 72 สกอร์รวมเหลือ 1 อันเดอร์พาร์ 283 รั้งอันดับ 20 ร่วม ขณะที่นักกอล์ฟชาวไทยผลงานดีสุดเป็น โปรไช้-ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ รอบสุดท้ายเก็บเพิ่มอีก 2 อันเดอร์พาร์ 69 จาก 3 เบอร์ดี้ เสียไป 1 โบกี้ รวมสี่วันมี 6 อันเดอร์พาร์ 278 จบอันดับ 8 รับเงินรางวัลไป 49,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.72 ล้านบาท

ส่วนผู้เล่นไทยที่น่าสนใจรายอื่นทำผลงานดังนี้ สุรดิษ ยงค์เจริญชัย (68) สกอร์รวม 2 อันเดอร์พาร์ 282 อยู่อันดับ 16 ร่วม, สดมภ์ แก้วกาญจนา (67) สกอร์รวมอีเวนพาร์ 284 อันดับ 22 ร่วม, สาริศ สุวรรณรัตน์ (72) กัญจน์ เจริญกุล (71) เศรษฐี ประคองเวช (71) และพรหม มีสวัสดิ์ (70) สกอร์รวมคนละ 3 โอเวอร์พาร์ 287 รั้งอันดับ 37 ร่วม