คลื่นเมืองไทยแข็งแรง FM 99 MHz
[new_shortcode]

คลื่นเมืองไทยแข็งแรง FM 99 MHz

[new_shortcode]

“โคบายาชิ” ตั้งเป้ายกระดับ JLPGA สู่ทัวร์กอล์ฟอาชีพหญิงระดับโลก

NAGASAKI, JAPAN - SEPTEMBER 10: Sora Kamiya of Japan poses with the trophy presented by the JLPGA President Hiromi Kobayashi after winning the tournament following the final round of the JLPGA Championship Konica Minolta Cup at Passage Kinkai Island Golf Club on September 10, 2023 in Nagasaki, Japan. (Photo by Hiromu Sasaki/JLPGA via Getty Images)

โคบายาชิเชื่อว่าการจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายต้องเน้นส่งเสริมสนับสนุนให้นักกอล์ฟหญิงในภูมิภาคเอเชีย เล็งเห็นว่าเจแอลพีจีเอคือจุดหมายปลายทางที่จะช่วยยกระดับนำพาเส้นทางสายอาชีพไปสู่ระดับที่สูงขึ้น ทั้งนี้โคบาชิและสมาชิกในเจแอลพีจีเอทัวร์ ต่างมั่นใจว่าการมีนักกอล์ฟจากต่างประเทศทั่วโลกเข้ามาร่วมแข่งขันในเจแอลพีจีเอทัวร์เพิ่มมากขึ้น จะส่งผลดีต่อทัวร์ในภาพรวม

 

ประธานเจแอลพีจีเอทัวร์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ณ ตอนนี้จะเห็นว่ามีนักกอล์ฟเดินทางไปแข่งขันในทัวร์อาชีพ นอกประเทศบ้านเกิดของตัวเองเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และนักกอล์ฟชาวญี่ปุ่นก็ตระหนักถึงความสำคัญของการยกระดับเจแอลพีจีเอทัวร์สู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติ โดยการต้อนรับคู่แข่งจากต่างชาติเข้าร่วมแข่งขันมากขึ้น ฉันเชื่อมั่นว่าเมื่อมีนักกอล์ฟทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมแข่งขัน จะทำให้ทัวรฺนาเมนท์มีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้เข้มข้นยิ่งขึ้นด้วย”

 

ทั้งนี้ โคบายาชิ เดินทางไปแข่งขันทั่วโลกในช่วงพีคของอาชีพ เธอคว้าแชมป์ 15 รายการ จากสามทัวร์ดังอย่าง เจแอลพีจีเอ, แอลพีจีเอ สหรัฐอเมริกา และเลดีส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์

 

สำหรับเจแอลพีจีเอทัวร์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1967 และพัฒนายกระดับมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในทัวร์กอล์ฟชั้นนำในระดับนานาชาติ และเป็นทัวร์ที่มีรายการชิงชัยมากที่สุดในช่วงหลายปีที่ผานมา เฉพาะในฤดูกาลนี้มีการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 38 รายการ โดย รายการล่าสุดที่เพิ่งปิดฉากลงไปคือการแข่งขัน เจแอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ โคนิก้า มินอลต้า คัพ ครั้งที่ 56 ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ 26 ของฤดูกาลนี้ ซึ่งแชมป์ตกเป็นของ โซระ คามิยะ นักกอล์ฟสาววัย 20 ปี

 

นักกอล์ฟที่ต้องการเข้าร่วมแข่งขันในเจแอลพีจีเอทัวร์ ต้องผ่านการคัดเลือกเช่นเดียวกันทัวร์อาชีพอื่นๆ โดยสามารถคว้าสิทธิ์ผ่าน เจแอลพีจีเอ เพลเยอร์ เซอร์ติฟิเคชั่น เทสต์ หรือคลอลิฟายอิ้ง สคูล ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 สเตจ ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ยังสามารถคว้าตั๋วได้จากทัวร์รองของญี่ปุ่น หรือสเต็ป อัพ ทัวร์

 

โคบายาชิ กล่าวเสริมว่า “ฉันยินดีเป็นอย่างหากมีนักกอล์ฟต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาแข่งขันในทัวร์ญี่ปุ่น นักกอล์ฟอาชีพควรได้ลงเล่นในทัวร์ที่พวกเขาสามารถผ่านการคัดเลือกเข้ามาได้ เราพร้อมจะต้อนรับนักกอล์ฟจากทั่วเอเชีย หลายคนอาจกังวลเรื่องภาษาและความท้าทายอื่นๆ ที่จะตามมา แต่ก็เป็นเรื่องที่พบเจอทุกที่ นักกอล์ฟอาชีพต้องพิจารณาเลือกว่าทัวร์ใดเหมาะสมกับพวกเขามากที่สุดและเป็นทัวร์ที่ต้องการลงแข่งขัน”

 

นอกจากนี้ โคบายาชิ เชื่อมั่นว่าการถ่ายทอดสดการแข่งขันเจแอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ ไปยัง 6 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียเมื่อไม่นานมานี้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศเกาหลีใต้ (SPOTV) มาเลเซีย (Astro) อินโดนีเซีย (TVRI), จีน (Golf Channel China), ไทย (Workpoint), และไต้หวัน (MOMO TV) คือจุดเริ่มต้นสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่น่าตื่นเต้นของเจแอลพีจีเอทัวร์

 

โคบายาชิ กล่าวเสริมอีกว่า “เราได้ขยายฐานแฟนกีฬากอล์ฟด้วยการถ่ายทอดสดไปยัง 6 ประเทศในเอเชีย เราต้องการเห็นแชมป์ที่หลากหลายเพื่อยกระดับศักดิ์ศรีของทัวร์ การถ่ายทอดการแข่งขันไปยังต่างประเทศของเรามีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงศักยภาพที่โดดเด่นของนักกอล์ฟของญี่ปุ่นและนักกอล์ฟต่างชาติที่ร่วมแข่งขันในเจแอลพีจีเอทัวร์ เมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จ ก็จะได้รับการสนับสนุนและดึงดูดความสนใจจากแฟนกอล์ฟบ้านเกิดตัวเอง รวมถึงแฟนกอล์ฟชาวญี่ปุ่นที่รักในเกมกีฬากอล์ฟ”

 

“ภายใต้แผนการนี้ ถือเป็นเรื่องน่าทึ่งมาก หากวงการกอล์ฟทั่วเอเชียผสานรวมเป็นหนึ่ง สร้างเวทีการแข่งขันและพัฒนากีฬากอล์ฟอาชีพหญิงในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง” ประธานเจแอลพีจีเอทัวร์ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวกีฬา