คลื่นเมืองไทยแข็งแรง FM 99 MHz
รายการปัจจุบัน : Morning Talk Weekend

คลื่นเมืองไทยแข็งแรง FM 99 MHz

“ลูกไม้ใต้ต้น” กับ “ความกดดัน” อธิชา หอมระรื่น

383012476_633776652301253_6432234537952908981_n

หลายคนคงเคยตั้งคำถามว่า “ทำไมลูกไม้มักหล่นไม่ไกลต้น”? คำตอบหนึ่งที่ชัดเจนที่สุดและคงไม่มีใครปฏิเสธได้ก็คือ สภาพแวดล้อมที่เด็กโตขึ้นมา ความสามารถที่เป็นความสำเร็จของผู้เป็นพ่อและแม่มักจะถ่ายทอดผ่านการสอน หรือการที่ลูกๆ ได้ซึมซับผ่านการรับรู้จากสิ่งต่างๆ รอบตัวจนยึดถือพ่อหรือแม่เป็น “ฮีโร่” และอยากเจริญรอยตาม

แต่การเป็น “ลูกไม้ไม่ไกลต้น” ก็ถือเป็นความกดดันไม่น้อย เพราะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องถูกนำไปเปรียบเทียบกับความสำเร็จของพ่อ หรือแม่bเช่นเดียวกับที่ “พลอย” อธิชา หอมระรื่น นักโต้คลื่นสาวทีมชาติไทยวัย 19 กำลังเผชิญอยู่

พลอยเป็นทายาทของ อรัญ หอมระรื่น อดีตนักวินด์เซิร์ฟที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของวงการโต้คลื่นไทย ซึ่ง ณ เวลานี้ได้ผันตัวมาเป็นผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย

แม้ว่า ในวัยเด็กพลอยจะไม่ได้เติบโตมาในแวดล้อมของการเล่นวินด์เซิร์ฟก็ตาม เพราะต้องไปอยู่กับย่าที่จังหวัดระยอง แต่เมื่อโตพอจะจำความได้ พลอยได้รับรู้ความสำเร็จของพ่อผ่านสื่อต่างๆ รวมถึงจากญาติพี่น้อง จนกระทั่งเมื่อย่างเข้าวัยรุ่น พลอยได้ย้ายมาอยู่กับพ่อที่พัทยา และเข้าเรียนที่โรงเรียนเมืองพัทยา 7 ในระดับมัธยมปีที่ 1-3 ซึ่ง ณ ที่โรงเรียนแห่งนี้พลอยได้เริ่มฝึกวินด์เซิร์ฟที่เป็นวิชาเลือกของโรงเรียน ก่อนที่ในปีถัดมาจะเริ่มฝึกซ้อมอย่างจริงจังภายใต้การฝึกสอนของพ่อและโค้ชทีมชาติคนอื่นๆ โดยมี “พี่ดาว” ศิริพร แก้วดวงงาม นักวินด์เซิร์ฟทีมชาติไทยคอยเป็นพี่เลี้ยงให้

“ตอนแรกๆ ก็กดดัน พ่อหวังกับเราไว้เยอะ แต่พอหลังๆ พ่อไม่อยากให้เราเครียด ก็เลยบอกว่า ขอทำให้ได้แค่ครึ่งของพ่อก็โอเคแล้ว”

หลังจากฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นได้แค่สองปี จนมีโอกาสติดทีมเยาวชนจะได้ไปแข่งยูธโอลิมปิกเกมส์อยู่แล้ว แต่ความมุ่งมั่นและความหวังของพลอยก็ต้องสะดุดหยุดลงเพราะการระบาดของโรคโควิดเป็นเวลานานถึง 2-3 ปี

แต่หลังจากโลกใบนี้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ พลอยได้กลับมาฝึกซ้อมอีกครั้ง และทำผลงานติดทีมชาติเมื่อปีที่แล้ว ได้ออกไปแข่งขันรายการระดับนานาชาติ 2-3 รายการ ก่อนจะติดทีมชาติทำศึกใหญ่ในมหกรรมกีฬาอย่างเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

“ก่อนไปแข่งเอเชียนเกมส์ ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรมาก เราเป็นรองคู่แข่งมาก เพราะประสบการณ์เรายังน้อย ทำให้ไปแข่งแบบไม่กดดัน แต่สำหรับผมก็แอบหวังไว้ลึกๆ นะ พอวันแรกพลอยเข้ามาที่สาม ก็เลยทำให้มีแรงฮึด”

อรัญผู้ทำหน้าที่ทั้งพ่อและโค้ชกล่าวถึงลูกสาวว่า เป้าหมายหลังจากนี้ที่ยากยิ่งกว่าการได้เหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์หลายเท่าตัวก็คือ การคว้าโควต้าลุยโอลิมปิกเกมส์ 2024
ขณะที่นักโต้คลื่นสาววัย 19 บอกว่า การคว้าเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์ได้ทำให้มีกำลังใจที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จที่สูงขึ้นอีก

“วันสุดท้าย พอรู้ว่าได้เหรียญ หนูร้องไห้เลย ทั้งดีใจ และคลายความกดดันในฐานะลูกของพ่อ หนูคิดว่าอย่างน้อยก็ทำให้พ่อไม่เสียหน้า(หัวเราะ)”

พลอยบอกว่า ตัวเองได้ทำหน้าที่ในฐานะลูกสาวที่เป็นความหวังของพ่อได้แล้ว ซึ่งความสำเร็จหลังจากนี้คือ “โบนัส” ที่จะต้องเดินหน้าทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ทีละขั้นๆ

“จะทำทุกวันให้เต็มที่ และทำให้ได้ดีกว่าเดิมค่ะ”

Premier League Update