ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวถึงกรณีที่ ถูก องค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ วาดา ลงโทษแบน จากการไม่ปฏิบัติตามกฎ ทำให้ไม่มีสิทธิ์ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับชิงแชมป์ระดับภูมิภาค, ระดับทวีป หรือระดับโลก และจะส่งนักกีฬาแข่งในระดับภูมิภาค ระดับทวีป และระดับโลก ได้ แต่จะไม่มีการใช้ธงประจำชาติของประเทศตัวเองในรายการที่ ไอโอซี และ วาด้า เป็นผู้ดูแลจัดการแข่งขัน รวมถึงในโอลิมปิก และพาราลิมปิก ว่า ที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือกับ วาดา เป็นอย่างดี ทั้งแก้ไขกฎหมาย ปรับปรุงกฎสารต้องห้ามใหม่ ๆ ที่ถูกห้าม หรือแม้กระทั่งกระบวนการตรวจสารต้องห้าม แต่ หน่วยงานตรวจสารต้องห้าม จะต้องแยกออกจาก กกท. หน่วยงานภาครัฐ อย่างเป็นอิสระ วาดา ต้องการให้หน่วยงานตรวจสารต้องห้ามของไทย คือ ศูนย์ตรวจสารต้องห้ามมหาวิทยาลัยมหิดล แยกการทำงานออกมาเป็นเอกเทศ ทำให้ติดขัดตรงที่ต้องไปแก้ในกฎหมายใหญ่ คือ พระราชบัญญัติ สารต้องห้าม ซึ่งได้เสนอให้รัฐบาลทราบแล้ว ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมตรี ได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น ได้เสนอใหัคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อแก้ไขต่อไป เรื่องอยู่ที่กฤษฎีกา กกท. ได้ชี้แจงไปแล้ว โดยขั้นตอนจากนี้ จะได้ออกมาเป็นพระราชกำหนด ไปก่อน เพื่อนำมาบังคับใช้ก่อน เป็นการเร่งด่วน ยอมรับว่า การแก้ไขกฎหมายต้องใช้เวลา โดยรายการใหญ่ ๆ เอเชียนเกมส์ 2022 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน เดือน ก.ย. น่าจะทันเวลา ยกเว้นแค่ โอลิมปิก ฤดูหนาว 2022 เดือน ก.พ. ที่กรุงปักกิ่ง ที่อาจจะไม่ทัน กกท. จะเร่งแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด