เวด ออร์มสบี โปรจอมเก๋าจากออสเตรเลีย หวังทำผลงานได้ดีเหมือนปีที่แล้ว ในการเข้าร่วมแข่งกอล์ฟอินแตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สองรายการติดต่อกันที่ประเทศไทยในเดือนตุลาคมนี้ ในฐานะแชมป์เก่ารายการ อินเตอร์ชันแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ปีที่แล้ว
เอเชียน ทัวร์ จัดการแข่งขันอินแตอร์เนชันแนล ซีรีส์ สองสัปดาห์ติดต่อกัน เริ่มจากรายการแบล็คเมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ ที่สนามแบล็คเมาน์เทน กอล์ฟ คลับ หัวหิน ระหว่างวันที่ 17 – 20 ตุลาคมนี้ ต่อด้วยรายการ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ที่สนามไทยคันทรีคลับ จังหวัดฉะเชิงเทรา ระหว่างวันที่ 24 – 27 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน 6 ทัวร์นาเมนท์ในช่วง 8 สัปดาห์แห่งการชี้ชะตาแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ที่จัดชิงชัย 10 สนามต่อปีในเวทีเอเชียนทัวร์
เวด ออร์มสบี โปรกอล์ฟวัย 44 ปี เตรียมลงแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์ชันแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ที่สนามไทยคันทรีคลับ ในฐานะแชมป์เก่า และตั้งเป้าป้องกันแชมป์ให้ได้ ขณะเดียวกันโปรกอล์ฟเจ้าของสถิติ 4 แชมป์เอเชียนทัวร์ หวังทำผลงานได้ดีอีกครั้งในการกลับมาเยือนสนามแบล็คเมาน์เทน กอล์ฟ คลับ หัวหิน ซึ่งจะเป็นสังเวียนจัดการแข่งขันทัวร์นาเมนท์ใหม่ รายการ แบล็คเมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ
โดยเมื่อปีที่แล้ว ออร์มสบี คว้าแชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ซึ่งจัดขึ้นที่สนามแบล็คเมาน์เทน กอล์ฟ คลับ หัวหิน หลังเฉือนเพลย์ออฟชนะ ชลทิตย์ ชื่นบุญงาม โปรกอล์ฟหนุ่มของไทย โดยเจ้าตัวกล่าวถึงการแข่งขันในปีนี้ว่า “การกลับไปเยือนทุกที่ในฐานะแชมป์เก่าเป็นเรื่องดีเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ลงเล่นในสนามที่ยอดเยี่ยม สนามที่เหมาะกับเกมการเล่นของคุณและคุณก็ทำผลงานได้ดีด้วย ปีนี้ผมเริ่มต้นในรายการอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ได้ไม่ดีนัก แต่ที่สนามแบล็คเมาน์เทน กอล์ฟ คลับ ผมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์มาแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และการแข่งขันที่ประเทศไทยก็เป็นสัปดาห์ที่สำคัญสำหรับผม เช่นเดียวกับการแข่งขันอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ทุกรายการ”
สำหรับการแข่งขันกอล์ฟอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ ที่สนามแบล็คเมาน์เทน กอล์ฟ คลับ เมื่อปีที่แล้ว ออร์มสบีมีสกอร์ตามหลัง ชลทิตย์ ชื่นบุญงาม ซึ่งแข่งจบไปก่อนด้วยสกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ อยู่หนึ่งสโตรก ขณะที่เหลืออีก 3 หลุม ก่อนทำเบอร์ที่หลุม 16 ตีเสมอเป็น 20 อันเดอร์พาร์ ต้องตัดสินหาผู้ชนะด้วยการเพลย์ออฟและเป็นออร์มสบีที่พัตต์เบอร์ดี้แชมป์ที่หลุม 18 พาร์ 5 ในการดวลหลุมแรก ซึ่งแม้ออมสบีสามารถคว้าชัยชนะมาครองได้แต่ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาขยับอันดับขึ้นเป็นจ่าฝูงของอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง เพื่อได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในลิฟ กอล์ฟ ลีก แต่เป็น แอนดี้ โอเกิลทรี เจ้าของแชมป์สองรายการจากสหรัฐฯ ที่คว้าโควตาสำคัญดังกล่าวไป
อย่างไรก็ตามการเป็นแชมป์ที่ประเทศไทยและการจบอันดับ 8 ในรายการเซนต์แอนดรูวส์ เบย์ แชมเปี้ยนชิพ ช่วยให้ออร์มสบีคว้าอันดับ 8 ของอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง และเป็น 1 ใน 7 นักกอล์ฟที่ได้สิทธิบายในรอบแรก เข้าสู่รอบสองของการแข่งขันลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์ ที่อาบูดาบี เพื่อลุ้นโควต้า 3 ที่เข้าไปเล่นในลิฟ กอล์ฟ ลีก โดยมีนักกอล์ฟ 70 กว่าคนร่วมชิงชัย ซึ่งจากการแข่งขันสี่รอบใน 3 วัน ออมสบีไม่ผ่านเข้ารอบ 20 คนในวันสุดท้าย และหวังว่าจะแก้มือทำผลงานเพื่อเข้าไปเล่นในลิฟ กอล์ฟ ลีกได้สำเร็จในปีนี้
ทั้งนี้ ออร์มสบี ได้ร่วมแข่งขันในฤดูกาลแรกที่มีการเปิดตัวลิฟ กอล์ฟ อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ โดยอยู่ในทีม Punch GC ซึ่งเป็นทีมนักกอล์ฟจากออสเตรเลียทั้งหมด และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นทีม ส่วนฤดูกาลนี้ออร์มสบีเป็นตัวสำรองทั้งฤดูกาล และเดินทางไปร่วมทุกทัวร์นาเมนท์ของลิฟ กอล์ฟ ลีก หากกรณีมีผู้เล่นในทีมคนใดไม่สามารถแข่งขันได้
ในฤดูกาลนี้ ออร์มสบี ทำผงานดีที่สุดคือรองแชมป์ในรายการ ซาอุดิ โอเพ่น พรีเซนเต็ดบาย พีไอเอฟ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน ออร์มสบี รั้งอันดับ 85 ของอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง ทั้งนี้นักกอล์ฟที่จบอันดับหนึ่งของอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง จะได้สิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่นใน ลิฟ กอล์ฟ ลีก ฤดูกาล 2025 โดยอัตโนมัติ ซึ่งอันดับคะแนนล่าสุดเป็น จอห์น แคตลิน แชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ มาเก๊า พรีเซนเต็ดบาย วินน์ รั้งตำแหน่งผู้นำ ตามด้วย เบน แคม์เบลล์ แชมป์อินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ โมร็อกโก
ออร์มสบี ในฐานะแชมป์เก่ารายการอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ และเป็นการคว้าแชมป์ที่สนามแบล็คเมาน์เทน กอล์ฟ คลับ รวมถึงแชมป์ฮ่องกง โอเพ่น 2 สมัย มีความมั่นใจว่ายังมีเวลาและโอกาสอีกมากในการลุ้นตำแหน่งผู้นำอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ แรงกิ้ง เพื่อคว้าโอกาสเปลี่ยนชีวิตในลิฟ กอล์ฟ ลีก รวมถึงโอกาสจากรายการลิฟ กอล์ฟ โปรโมชันส์ ซึ่งเมื่อปีที่แล้วนักกอล์ฟอันดับ 2 – 8 ได้บายเข้ารอบสอง และนักกอล์ฟ 25 คนใน 40 อันดับแรกได้สิทธิ์ลงเล่นในรอบแรก
ออร์มสบี เผยระหว่างการแข่งขันลิฟ กอล์ฟ ลีก ที่ชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาเข้าร่วมในฐานะตัวสำรองว่า “ผมออกสตาร์ตได้ไม่ดีนักในปีนี้ ดังนั้นผมต้องรีบขยับอันดับตัวเองในอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ เพราะผมต้องการลงเล่นในลิฟ กอล์ฟ ลีก ปีหน้า และผมก็ยังมีโอกาสทำได้ การจะไปถึงจุดนั้นได้ก็ต้องทำงานหนักในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า และพยายามทำให้ดีที่สุด แน่นอนว่าผมตั้งตารอการแข่งขันที่ประเทศไทย และฮ่องกง โอเพน ซึ่งเป็นรายการที่ยอดเยี่ยมและผมเคยเป็นแชมป์เก่าด้วย การกลับไปทุกที่ในฐานะแชมป์เก่า เป็นเรื่องที่ดีเสมอ”
“ด้วยบทบาทของผมและตารางการแข่งขันของผมในปีนี้ เป็นเรื่องที่วิเศษมากที่ได้รับหน้าที่ตัวสำรองในลิฟ กอล์ฟ ลีก และในขณะเดียวกันมันเหมือนเป็นรางวัลจูงให้ผมต้องทำงานหนักเพื่อคว้าโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริง ผมต้องการกลับไปเล่นในลิฟ กอล์ฟ ลีก ซึ่งตอนนี้ผมมีโอกาสอีก 6 ครั้งที่จะพาตัวเองไปยังจุดหมายปลายทางดังกล่าว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับฟอร์มการเล่นของผม และมีหลายสนามที่เหมาะกับเกมการเล่นของผม ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ผมทำงานหนักเพื่อทำให้ตัวเองทำผลงานได้ดีที่สุดในอีก 6 รายการที่เหลืออยู่” ออร์มสบี ทิ้งท้าย
สำหรับการแข่งขันรายการแบล็คเมาน์เทน แชมเปี้ยนชิพ และอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ไทยแลนด์ เป็นทัวร์นาเมนท์ที่ 5 และ 6 ของศึกอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ ที่จัดชิงชัย 10 สนาม และเป็นทัวร์นาเมนท์ที่ 15 และ 16 ของเอเชียนทัวร์ในฤดูกาลนี้